วันอาทิตย์ที่ 5 เมษายน พ.ศ. 2552

ตามรอยหมวยเล็กไปโขงเจียม จ.อุบลราชธานี

จากที่เคยดูรายการ "ตลาดสดสนามเป้า" ตอนที่หมวยเล็กพาไปเที่ยวโขงเจียม จ.อุบลราชธานี ก็รู้สึกว่าเออน่าไปเดินเที่ยวดูเหมือนกันนะ ทีนี้พอมีโอกาสได้ไป จ.อุบล เมื่อเดือนมีนาที่ผ่านมาแล้วมีเวลาว่างไม่รู้จะไปไหนดีก็เลยตัดสินใจไปเที่ยวโขงเจียมดีกว่าเพราะที่นี่ก็ถือว่าเป็นหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่ขึ้นชื่อของจังหวัด ประกอบกับที่เคยผ่านหูผ่านตามาเหมือนกันว่าเป็นที่ๆสวยบรรยากาศดีก็เลยเก็บเสื้อผ้ายัดใส่กระเป๋าแล้วก็ออกเดินทางเลยโดยตั้งใจว่าจะนอนค้างซักคืน การเดินทางก็เริ่มจากตัวจังหวัดไปทาง อ.พิบูลมังสาหาร ตรงไปเรื่อยจนเจอสามแยกที่ถ้าหากเลี้ยวขวาจะไป อ.สิริรธร ที่มีพัทยาน้อยและด่านช่องเม็ก ซึ่งจะไปทางนี้ก็ได้เหมือนกันแต่จะอ้อมนิดหน่อยฉะนั้นให้เลี้ยวซ้ายแล้วเลี้ยวขวาอีกครั้งเพื่อไป อ.โขงเจียม(สังเกตุป้ายบอกทางไปโรงแรมทอแสงก็ได้) รวมระยะทางประมาณ 90 กิโล สุดท้ายก็จะไปถึงโขงเจียมประมาณเที่ยง มีจุดชมวิวแม่น้ำสองสีและก็มีวัดใหญ่อยู่วัดนึงชื่ออะไรก็จำไม่ได้ไม่ได้แวะเข้าไปกะว่าค่อยเย็นๆค่อยมาเพราะว่าตอนที่ไปถึงน่ะร้อนนนนน.....มากกกกกกกกกก เลยลงไปที่ริมแม่น้ำ ทีนี้ก็ ตะลึง...กับภาพที่เห็นเบื้องหน้าเพราะว่าสิ่งที่เห็นคือจะร้านขายของที่ระลึกที่ตั้งเรียงรายกันไปและร้านอาหารที่ทำเป็นแพอยู่ในแม่น้ำ มีนักท่องเที่ยวเดินอยูประปราย ก็เลยรู้สึกเซ็งจิตขึ้นมาทันที่ว่ากรูขับรถมาเกือยร้อยโลเพื่อไรวะเนี่ยไม่เห็นมีอะไรเลยและแดดก็ร้อนโคดๆ และระหว่างที่กำลังนั่งเซ็งๆอยู่นั้นก็มีคนมาชักชวนให้นั่งเรือข้ามไปฝั่งลาวใครมาที่นี่ก็ข้ามไปทั้งนั้นก็เลยถามว่าจะข้ามไปทำไม..ฝั่งโน้นมีอะไร..ค่าโดยสารกี่บาท ก็เลยได้คำตอบว่าฝั่งโน้นมีตลาดขายของราคาถูกค่าโดยสารถ้าเหมาก็ 350 บาท ถ้ารายหัวก้คนละ 35 บาทแต่ต้องมีไม่น้อยกว่า 10 คน เรือจึงออก ก็เลยตกลงข้ามฝั่งไปเดินตลาดเล่นดีกว่าไหนๆก็มาถึงแล้ว
พอนั่งเรือข้ามแม่น้ำโขงมาถึงฝั่งลาวแล้วก็ต้องมาเสียค่าธรรมเนียมเหยียบแผ่นดินก่อนครับคนละ 10 บาท พอดีไปกันหลายคนก็เลยเหมาจ่ายกันไปเลย 100 บาท แล้วก็จะได้ใบเสร็จรับเงินหน้าตาแบบเนี้ยมา 1 แผ่น แล้วก็เดินเข้าไปเลยระยะทางก็กี่ร้อยเมตรก็ไม่รู้รู้แต่ว่าไกลพอสมควรเพราะมองเห็นตลาดอยู่บนเนินเขาลิบๆโน่นแนะ ฉะนั้นถ้ารู้ตัวว่าสังขารไม่อำนวยก็แนะนำให้ขึ้นรถมอไซต์รับจ้างเข้าไปดีกว่า

ราคาคนละ 10 บาท ส่วนผมนะเหรอ เดินครับ

เดินมาเรื่อยๆก็เจอโรงเรียนครับลักษณะเป็นเรีอนแถวชั้นเดียว หนึ่งหลังเท่านั้น ชื่ออะไรก็อ่านเอาเองนะ
แล้วก็พบนี่เลยครับเด็กๆที่ออกมาขายของบริเวณริมทางหน้าโรงเรียนส่งเสียงเจี้อยแจ้ว"ซอยหลานน่อยซื้อหน่อยติ๊ล่า"เรียกลูกค้าเหมือนที่เห็นในตลาดสดสนามเป้าเลย
โน่นไงเห็ยมั๊ย...ตลาด สินค้าที่วางขายก็ประมาณนี้เหละครับ เสื้อผ้าของใช้ต่างๆที่ส่วนมาจะมาจากจีน เหล้าดองต่างๆส่วนมากจะเป็นงู ที่เห็นนี่ตะขาบดองเหล้าตัวใหญ่โคด และก็นี่ครับสิ่งที่น่าสนใจที่สุดเป็นโทรศัพท์มือถือที่นำเข้าจากจีนของก็อปทั้งนั้นราคาถูกมากๆ ipone ก็มีนะเจ๋งกว่าของแท้อีกเพราะใส่ได้ 2 ซิมแถมยังดู TV ได้อีกตะหากราคาเครื่องละ 2 พันกว่าบาทเท่านั้นเอง นองจากสินค้าที่เห็นแล้วก็จะมีพวกเหล้าและบุหรี่ของลาวครับซึ่งราคาถูกมากๆ เอาละเดินเหนื่อยแล้ว..ร้อนด้วยกลับดีกว่าก็นั่งเรือข้ามฝั่งชมวิวมาเรื่อยๆครับลมเย็นดีน้ำก็ใสเย็นเชียวครับค่อยสดชื่นขึ้นมาหน่อย ข้ามถึงฝั่งไทยแล้วครับสรุปแล้วนั่งเรือข้ามไปฝั่งลาวไม่ได้อะไรติดมือกลับมาเลยพอกลับเข้ามาแล้วขับรถวนหาโรงแรมอยู่ซักพักก็มารู้สึกว่าจะมานอนอยู่ที่นี่ทำไมฟระ..ก็มันไม่มีอะไรให้ดูแล้วนี่หว่าทั้งที่จริงๆแล้วที่นี่ยังมีที่เที่ยวอีกเยอะแต่สำหรับผมแล้วประมาณว่าร้อนอ่ะเริ่มหงุดหงิดแล้วครับสู้ขับรถกลับในนอนในเมืองดีกว่า...สุดท้ายนี้ก็ขอจบด้วยภาพนี้ก็แล้วกันครับกับภาพปลาบึกสัญญลักษณ์ของอำเภอโขงเจียม...สวัสดีครับ

1 ความคิดเห็น:

  1. ไม่ระบุชื่อ11 มิถุนายน, 2554 23:45

    Hello, how much did you pay for a Snake wine bottle at the border with LAO ?

    Is it the same as on this site ? http://www.buy-snake-wine.com/

    Is it possible to buy the bottles that you show ?


    Thanks for all your info.

    ตอบลบ